วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Pause Resort เกาะล้าน

Pause Resort เกาะล้าน
รีสอร์ทที่น่าจะแหวกแนวที่สุดของเกาะล้าน เมื่อก่อนนี้ไปเกาะล้านรีสอร์ทที่นั้นก็มักจะเป็นแบบบ้านทั่วไป แถมบางอันก็ดีไซน์ได้แบบ เอิ่ม สีจะเยอะไปไหน แล้วไม่มีรสนิยม แต่หลายปีมาแล้วมี Pause Resort ไปเปิด ผมเองไปตอนช่วงเปิดใหม่ ๆ ไม่นาน มันดีมาก เสียอย่างเดียวไม่ติดหาดเท่านั้นเอง แต่ไม่ต้องกลัวสามารถนั่งมอไซไปหาดได้ครับ เอาละตามมาดูกันว่าห้องที่พักเป็นยังไง  โดยที่นี่จะเป็นรีสอร์ทห้องคู่ครับ มีราคา 1,500 บาท วันธรรมดา วันหยุด 1,800  และวันหยุดยาว 2,000  ดูราคาแล้วคงคิดว่าหูยยย ไปพักพัทยา คืนละ 700 ก็ได้หรูแล้ว แต่เดี่ยวก่อนที่นี่มันเกาะล้าน บ้านธรรมดาก็ปาไปพันกว่าแล้วครับ ฉะนั้นนี่ราคาไม่ไ้ด้แพงเว่อร์ แต่มันก็แพงอยู่ครับ 555

 การตกแต่งเป็นแบบปูนเปลือย และตัดกับสีดำ และเป็นทรงเลขาคณิตดูเรียบง่าย

** ภาพจากทางรีสอร์ท **

วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ลานสกีที่ ซัปโปโร เดินทางแค่ 20 นาทีถึง

เล่นสกีที่บ้านเค BAN.K ชื่อเต็ม ๆ คือ BANKei ครับ เป็นที่สกีที่ติดตัวเมืองฮอกไกโดมาก ใครอยากเล่นสกี แต่ไม่อยากไปรีสอร์ทไกล ๆ ผมแนะนที่นี่เลย 20 นาทีจากตัวเมือง วันเดย์ทริปได้สบาย ๆ แถมไปเที่ยวต่อที่อื่นได้อีกด้วย


การเดินทางให้นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่ สถานี Maruyama Park แล้วต่อรถบัสของทาง ban.K

โดยรถจะออกเป็นเวลานะครับ ที่เห็นเลข 45 10 40 คือหน่วยของนาที ค่าบริการก็ 210 Y ก็ราว ๆ 60 บาท แต่ถ้าติดหรู ก็นั่ง taxi มาจากในตัวเมืองเลย ราคาก็ประมาณ 2,000 – 2,500 Y

มาถึงท่ารถแล้ว ต่อคิวให้เป็นระเบียบด้วยนะครับ โดยรถจะไปส่งคนลงอีกจุด และก็จะเคลื่อนมารับเราอีกทีนึง อย่าไปเด๋อ กรูเข้าไปตอนเขาจะลงแบบที่ประเทศไทยละ


ขึ้นรถไปแล้วก็จับจองที่นั่งให้ดี ๆ รถคันนี้ไม่รับ pass ใด ๆ ฉะนั้นเตรียมเงินสดเท่านั้นนะครับ เพื่อความรวดเร็วเตรียมให้พอดีกับค่าตั๋ว ที่นั่งนั้นช่วงเข่าของที่นั่งแคบมาก ๆ ครับ คนที่แบกสกีไปเองนี้นั่งลำบากมาก ๆ

เดินดี ๆ ระวังลื่นนะครับ ถึงแม้จะมีบันไดให้แต่ก็มิหิมะปกคลุมไปหมด ผมเองวันที่ไปไม่ได้ใส่รองเท้าหิมะไปซึ่งก็จะต้องเดินระวังมาก ๆ ถ้าแนะนำนะครับยอมเสียเงินสักไม่กี่ร้อยบาทกับการซื้อรองเท้าเดินบนหิมะ โดยมันจะมีแง่งเหล็กช่วยเจาะเข้าไปที่พื้นทำให้ไม่ล้ม ขนาดคนญี่ปุ่นยังล้มเลย คนไทยจะไปเหลืออะไร


ถึงแล้วครับอาคารอำนวยการ <– เรียกซะโบราณเชียว อาคารนี้เป็นทั้งร้านอาหาร ที่เช่าอุปกรณ์ ห้องน้ำห้องท่า
เอาละอวดรูปตัวเองแล้ว สำหรับเสื้อผ้าที่แนะนำ ก็คือเสื้อกันหนาวที่ผ้าไม่ซับน้ำ เพราะถ้าเอาแบบที่หนา ๆ เฟอ ๆ สวย ๆ มาละก็ ตอนล้มนี่เปียกได้นะครับ ถุงมือที่หนาพอสมควร กางเกงเช่นเดียวกันถ้ากางเกงยีนอาจจะไม่เหมาะเพราะว่าตอนล้มไป ก็จะเปียกได้ รองเท้าไม่ต้องสนใจมาก เพราะถ้าไปเล่นสกีก็ต้องเปลี่ยนอยู่ดี
มาถึงก็กินก่อนเลย วิธีการสั่งอาหารก็ไปกดรายการอาหารที่ตู้ จะได้เหมือนตั๋วรถไฟมา ให้วางไว้ที่ถาด แล้วขยับตามชาวบ้านไปเรื่อย ๆ แล้วคนขายจะไปตักอาหารมาวางในถาดให้เอง
น้ำมีให้ฟรี หรือจะเสียเงินก็ได้ กาแฟก็มีนะครับ ผมสั่งอูด้งไป ร้อน ๆ เข้ากับบรรยากาศหิมะ ( เข้ากันตรงไหนนะ ) กินไปมองวิวหิมะไปสุดแสบตามาก แต่ก็สวยดี ผมว่าแค่มานั่งกินอาหารตรงนี้มันก็ฟินแล้วละ เอ้า จบรีวิวกลับแยกย้าย
มา ๆ กลับมาต่อครับ เนื่องจากผมไม่ได้เอาสกีไปเอง ก็เลยต้องเช่าครับ ครั้นไปถึงแล้วจะให้ไปเดินเล่นบนหิมะเฉย ๆ ก็จะยังไงอยู่ ของมันต้องเล่นครับ นี่เป็นการเล่นครั้งที่ 2 ในชีวิตของผม สำหรับค่าเช่าของที่นี่ มีราคาตามตารางด้านล่าง สำหรับคนที่คิดว่าพอจะเล่นเล็ก ๆ น้อย แนะนำเป็น set 4,900 yen ซึ่งจะได้ อุปกรณ์เล่นสกีครบ ไม่รวมเสื้อผ้านะ แต่อยากได้ชุดจัดเต็มก็ 7,500 Yen กันไปเลย เล่นได้ 4 ชั่วโมง ทำไมผมถึงให้เล่น 4 ชั่วโมงนะหรือ เพราะว่าผมเล่น 2 ชั่วโมงแล้วมันน้อยมาก ยังไม่ได้ทันสนุก เวลาก็หมดแล้ว ไหน ๆ มาก็จัดเต็มเลยครับ
แต่ถ้่เล่นไม่เป็นเลยไม่เคยเล่นมาก่อนแนะนำเป็นแพคนี้ครับ คลาสปกติ 50นาที 5,000 yen ราว ๆ 1500 บาท หรือถ้าอยากให้เขาสอนเป็นส่วนตัว ก็มีกรุ๊ปพิเศษซึ่งถ้าจะเรียนคนเดียวตัว ๆ ก็ต้องจ่ายแพง ถามว่าแพงไหมก็ต้องบอกว่าไม่ได้แพงมาก ถ้าเทียบกับที่ผมไปเรียนที่ NewZealand อันนั้น 3,000 บาท ได้ทั้งอุปกรณ์และก็คลาสสอน ซึ่งนานกว่า 50 นาที ซึ่งดูคุ้มกว่าแถมค่ารถไปรีสอร์ทก็ฟรีด้วย
ไปครับพร้อมลุยแล้ว สำหรับกางเกงผมเปลี่ยนเป็นอีกตัว ครับ อันนี้กางเกงหิมะโดยเฉพาะ ขนมาจากเมืองไทยกันเลย สกีเวลาถือก็น้ำหนักเอาเรื่องอยู่ ควรฟิตร่างกายก่อนที่จะมาเล่นนะครับ
ผมเองระดับขั้น บิกิเนอร์ ก็เล่นได้แค่โซนนี้ครับ ลาดไปลาดมา ไม่สามารถไปสูง ๆ ได้ อยากไปเหมือนกัน แต่กลัวเบรกไม่ทัน ตกเขาไปจะลำบากแก่ผู้ร่วมทริปได้
อยากขึ้นลิฟท์ต้องเสียเงินนะครับ เพราะถ้าให้เดินแบกไปสุดทางก็คงจะใช้เวลานาน บรรยากาศรอบ ๆสวยงามตามท้องเรื่องหิมะ

เล่นเสร็จแล้วก็เอาอุปกรณ์มาคืนครับ นี่คือรองเท้าสกี ใส่ทีนึงว่าตัวเองเป็นไอรอนแมน มันก็หนักแล้วก็ทำให้ข้อเท้าเราขยับไม่ได้ เวลาเดินก็แบบหุ่นยนต์เลยครับ เดินลงบันไดยังยากเลย
แล้วเราก็นั่งรถกลับลงจากเขาครับ แต่ว่านั่งผิดคันครับ คือตนแรกนึกว่ามันสีเขียวจะเป็นรถไปส่งที่เดิม ปรากฏว่าผมไม่ได้ดูป้ายหน้ารถ มันขับลงเขาก็จริง แต่ไปส่งเราอีกที่นึงครับ กลายเป็นมาส่งที่ Makormanai Station คนละทิศละทางกับที่มาเลย


นี่คือภาพของสถานี มาโกะมาใน ที่ผมลงผิดมา ซึ่งอยู่สุดสายของสถานีรถไฟ T T
สำหรับแผนที่การเดินทางสำหรับท่านที่สนใจจะไป และเว็บไซต์ภาษาอังกฤษ https://www.bankei.co.jp/multilingual/english.html…

ใครมีข้อสงสัยอะไรสอบถามที่ใต้คอมเมนต์นี้ได้นะครับ








บุฟเฟ่ขาปูที่ คลองโอตารุ ฮอกไกโด


วันนี้จะพามากินขาปูยักษ์กัน ที่โอตารุ ฮอกไกโด ชื่อร้าน COMSEN小樽運河食堂  กัน ต้องบอกก่อนว่าร้านนี้ไม่ใช้ร้านที่ถูกที่สุดหรือดีที่สุด เพราะมันเป็นร้านที่อยู่ในศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโอตารุ มันจึงราคาเอาเรื่องอยู่ ซึ่งจะมีให้เลือกหลายราคา ร้านอยู่ตรงสะพานข้ามคลองใกล้ ๆ กับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หาไม่ยากครับ อยู่ด้านขวามือ

สวนสัตว์ Alpaca Hill


Alpaca ไม่ใช่สัตว์ท้องถิ่นของประเทศไทย แต่ก็มีการนำมาเลี้ยงโชว์กันมากมายตามงานต่าง ๆ แต่ถ้าอยากชมอัลปาก้าแบบสถานที่สวย ๆ พร้อมกับสัตว์ผองเพื่อนดี ๆ ผมแนะนำเลยว่าที่นี่เยี่ยมพอที่คุณควรไป ผมรู้สึกว่าที่นี่เป็น Themepark นะ เพราะเรื่องการออกแบบเขาออกแบบได้สอดคล้องกันดี รู้สึกได้ว่าเป็นสวนสัตว์เดียวกันต้องชมฝ่ายครีเอทีพของที่นี่นะ

มาดูเรื่องราคากันมีหลายราคามาก ถ้าอยากเข้าฟรี ก็อายุ 60 ขึ้นไปหรือสูงไม่เกิน 110 ส่วนเรา ๆ ก็เสียเงินครับ จะมีบัตรแบบปกติ ยันถึงบัตรแพงสุดเล่นได้ทุกอย่ง 790 บาท สำหรับผมเลือกแบบปกติครับ คือเข้าชมอย่างเดียวไม่ขอเล่นอะไรพิเศษ

ซื้อบัตรเสร็จแล้วเราก็นั่งชมกฏระเบียบ บรรยายสรุปต่าง ๆ ผมมองว่าจุดนี้พื้นที่เล็กไป ถ้าคนมาเยอะ ๆ นี้ก็คงไม่พอ

นี่คือแผนที่ภายในใหญ่กว่าที่ผมคิดไว้มาก ตอนแรกคิดว่าจะมีแค่ อัลปาก้าและแกะ แต่ข้างในสัตว์เยอะมากครับ


เขาจะมีให้เราไปแสต็มเก็บ RC ตามจุดต่าง ๆ ถ้าใครได้ครบก็จะได้รับ ขน อัลปาก้านำโชคกลับบ้านไป  แนะนำว่าควรทำให้ครบนะครับ ของที่ระลึกสวยอยู่เป็นถุงสีทองน่าสะสม

ได้เป็นบัตรแข็ง ๆ แบบนี้เลยน่าเก็บเอาไว้ ไม่ใช่กระดาษปริ๊นคิวอาร์โค๊ต

เอาละเริ่มออกเดินทางกันเลย เขาจะมีทางเดินให้เราเดินตามเส้นทางนะครับ จะได้เดินครบแล้วก็ไม่ชนกันด้วย ก็ถือว่าสะดวกดี เพราะบางทีไปสวนสัตว์เดินไปมาแล้วหลง วนกลับมาที่เดิมก็มี ไปครับตามน้องหนูไปกัน อ่อ ลืมบอกว่าเขาจะให้เป็นถุงส้ม ๆ มาให้เราด้วยนะครับ เอาไว้เก็บเอกสารและ ของใช้ส่วนตัวเล็ก ๆน้อย ๆระหว่างเดินชมได้ บรรยากาศสวนเขาก็ตกแต่งแบบตั้งใจดีครับ อันนี้ขอชมนะครับ

ที่เห็นถุงคลุมเท้านี้ก็เพราะว่าเราเองอาจจะหยียบอะไรมาแล้วที่นี่เขามีสัตว์หลายอย่างกลัวเราจะไปเอาเชื้อโรคมาติดเขา เขาก็เลยให้ใส่ถุงแบบนี้ครับ สำหรับโซนแรกเป็นโซนพ่อมดแม่มด มีพร๊อพให้ถ่ายภาพ และก็มีลุงนกฮุกให้ถ่ายภาพด้วย ตัวใหญ่เชียว

มาแล้วครับพระเอกของเรา Alpaca มีหลายขนาด และก็หลายสีให้เลือกถ่ายภาพ แต่มันค่อนข้างจะเห็นแก่กินนะครับ ต้องมีอาหารถึงมาเขาจะมีถั่วฝักยาวให้คนละแก้ว เราก็ป้อนมันแบบนี้ได้ เพื่อล่อมาถ่ายรูปนั้นเอง



บริเวณรอบ ๆ ก็จะมีสัตว์เล็ก ๆให้เข้าไปเยี่ยมชมอย่างใกล้ชิด

ใครอยากจับสัตว์ก็ควรล้างมือฆ่าเชื้อก่อนนะครับ และข้าง ๆ ก็จะมีที่ประทับตราเพื่อสะสมไปแลกของรางวัล เราสามารถใกล้ชิดสัตว์ได้เช่นมี นกเชื่อง ๆ ( บางตัวก็ดุนะ ) มาเกาะหลัง เกาะไม่ยอมลงเลยทีเดียว เด็ก ๆ จะชอบโซนนี้มาก





นกยุงสุดสวย ถ้าโชคดีก็จะเห็นมันรำแพนหมุนตัวไปมา ลองนับสิครับว่ามีกี่จุดแล้วไปซื้อหวย ถ้าถูกแบ่งผมด้วยนะ
กระต่ายน้อยเต็มไปหมด อดนึกถึงกระต่ายที่ผมเคยเลี้ยงไม่ได้จริง ๆ กระต่ายเป็นสัตว์ที่ไม่ร้องไม่มีเสียง แต่ขี้อ้อนนะครับ ตอนที่ผมเลี้ยง มันชอบมาไซร์ขาบางทีก็จะมุนไปใค้เท้าของเรา แล้วก็มานั่งบนตักก็มี

อูด ๆ ลูกหมูน้อยน่ารักเชียว อยากเลี้ยงถ้าตัวมันเท่านี้ตลอด เพราะถ้าโตมานี่เรื่องใหญ่เลยละ 55

ชอบที่นี่ตรง หลายโซนมันไม่มีกรงเราสามารถใกล้ชิดกับสัตว์ได้มาก

ไก่มีขนแบบนี้คยเห็นไหมครับ อย่างกับกระต่ายเลยทีเดียว สมัยก่อนไก่พวกนี้ถูกนำไปแสดงในคณะละครสัตว์เพราะความแปลกของมันนั้นเอง
ตัวมารา รูปร่างเหมือนหวางแต่หัวเป็นกระต่าย ดูไปดูมาก็น่ารักดี

เต่ายักษ์ก็มี สมัยเด็กไปพาต้า มีเต้ายักษ์เคยไปขี่ถ่ายรูปด้วย คิดแล้วไม่น่าทำเลย สงสารมันต้องรับน้ำหนักผมขนาดนั้น ดูตัวนี้สิครับ ถ้าหนูบ้านตัวเท่านี้จะเป็นยังไงนะ 555

สัตว์ค่อนข้างเชื่องกับคนมากครับ ดูเป็นกันเอง ผมว่าเด็ก ๆ มาต้องหลงรักที่นี่  

 โซนต่อมาเป็นโซน Lord of The Ring เป็นการจำลองสถานที่ในหนังนั้นเอง อุปกรณ์ที่มาแสดงเป็นของแท้นะครับ เพราะผมก็ซื้อมาจากนิวซีแลนด์ และเคยไปเห็นเหมือนกัน ตัวพวกนี้ของแท้ครับ แต่สถานที่ไม่แน่ใจว่าได้ขอลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องมาหรือยัง อันนี้ผมไม่ทราบจริง ๆ



ดูไปดูมาบ้านฮอบบิท มันก็เหมือน ฮวงซุ้ยของคนจีน 555


แน่นอนสวนผึ้งต้องมีแกะ และที่มี่ก็มีครับ เยอะมากมาย และให้อาหารได้ฟรี


อย่างที่บอกว่าต้อง Stamp ให้ครบ ถ้าครบแล้วเราไปแลกรางวัลได้ที่ร้านกาแฟนี้ นี้ครับได้มาแล้วรางวัล เป็นขนนำโชค ขน Alpaca ใส่ในถุงทองสวยเชียว